รังสิมันต์ โรม อภิปรายแฉขบวนการค้ามนุษย์ ต้นเหตุทำ พล.ต.ต.ปวีณ ลี้ภัยต่างแดน ส.ส.ก้าวไกว ยันขอเดินหน้าเปิดโปงสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก่อนหน้านี้ รังสิมันต์ โรม ส.ส. พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ต่อรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่อาคารรัฐสภา วันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ในประเด็นเกี่ยวกับคดีการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาเมื่อปี 2558 ที่นำทีมสืบสวนสอบสวนโดย พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ซึ่งปัจจุบันต้องลี้ภัยอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย
ในการอภิปรายของนายรังสิมันต์ ได้ไล่เรียงเหตุการณ์ที่ประเทศไทยถูกปรับอยู่ในบัญชีเฝ้าระวังการค้ามนุษย์ (Tip Report)
ของสหรัฐฯ กอนจะเปิดเผยต่อว่า ขบวนการค้ามนุษย์มีจุดเริ่มต้นจาก คดีค้าโรฮีนจา เมื่อปี 2558
ขณะนั้นมีการค้นพบการขนชาวโรฮีนจา สถานกักกัน ไปจนถึงหลุมศพของชาวโรฮีนจาอยู่บริเวณพื้นที่การดูแลของตำรวจภาค 8 โดยมี พล.ต.ต.ปวีณ ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดี ก่อนจะค้นพบความสัมพันธ์ที่โยงใยขบวนการค้ามนุษย์ไปยังระดับข้าราชการทหาร นักการเมืองท้องถิ่น อีกหลายราย จนนำไปสู่การจับกุม พล.ท.มนัส คงแป้น ในเวลาต่อมา แต่การทำคดีในครั้งนั้น ส่งผลให้ พล.ต.ต.ปวีณ ต้องลี้ภัยไปยังออสเตรเลีย
รังสิมันต์ โรม ปิดท้ายการแถลงข่าว ว่า “การอภิปรายรอบนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงคะแนน การอภิปรายนี้ก็เพื่อเปิดเผยและต้องการให้สังคมทบทวนประเด็นต่างๆ ที่ไม่ถูกต้อง และหวังใช้สภาเป็นพื้นที่สะท้อนปัญหา” พร้อมยืนยันว่า “พรรคก้าวไกลพร้อมเดินหน้าแก้ไขสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง แม้จะเชื่อว่า ตราบใดที่ขบวนการค้ามนุษย์ที่ยังเป็นบ่อเงิน บ่อทอง ของผู้มีอำนาจ อาจจะยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ แต่ในมุมของก้าวไกล ก็จะยังทำงานเปิดโปงและตั้งคำถามต่ออันตรายในสังคมให้ได้”
ด้าน พล.ต.ต ปวีณ กล่าวว่า เขาตั้งใจฝากถึงพี่น้องข้าราชการที่ต้องทำงานและเจอกับเรื่องร้ายๆ อย่างเขาว่า ขอให้ซื่อตรงต่อหน้าที่ตนเอง กล้าหาญ ตระหนักถึงประโยชน์ของประเทศชาติมาเป็นอันดับแรก พร้อมย้ำว่า “ประเทศชาติหมายถึงประชาชน ไม่ใช่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
ขณะเดียวกันอดีตนายตำรวจที่ปัจจุบันลี้ภัยยังต่างแดน กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาไม่ใช่่ว่าตนไม่อยากออกมาเปิดเผย ตอนนั้นเคยพูดเปรยกับสื่อมวลชนหลายสำนัก แต่ไม่มีใครนำไปเปิดเผย เมื่อไม่มีการตอบรับ การพูดไปนั้นเปล่าประโยชน์ ตนรอเวลามานาน ใครที่จะรับข้อมูลของไปเปิดเผย หากเปิดเผยไปแล้วไม่มีใครขยายต่อ เผยแพร่ต่อ ก็ไม่มีความหมาย
เพจดังแฉ! นักศึกษาเสียชีวิต ระหว่าง รับน้อง ด้าน ตร. เร่งสืบ
เพจดังได้ออกมาเปิดเผยว่ามี นักศึกษาเสียชีวิต ระหว่าง รับน้อง คาดถูกทำร้ายร่างกาย ด้านตำรวจเร่งผ่าชันสูตรอย่างละเอียด เตรียมดำเนินคดี หากพบรุ่นพี่เอี่ยว
เพจ Anti-Sotus ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีนักศึกษาเสียชีวิตจากการรับร้อง โดยเป็นนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (โคราช) ซึ่งถือเป็นนักศึกษาคนแรกที่มีการรายงานว่าเสียชีวิตจากการรับน้องในปีนี้
ซึ่งทางเพจระบุว่า “เสียชีวิตจากการรับน้อง น่าจะมีการเข้าไปทำร้ายกันในป่า และถูกทำร้ายร่างกาย จนเสียชีวิต”
โดย พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้รับรายงานว่า วันนี้ มีนักศึกษาชาย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (นครราชสีมา) ได้รับบาดเจ็บถูกส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
เบื้องต้นทราบว่า รุ่นพี่ได้มีการนัดหมายรุ่นน้องรวมประมาณ 50 คน ออกไปรับน้องด้วยกันเองนอกมหาวิทยาลัยฯ และมีรุ่นน้อง หรือ นายพัสยศ ชลภักดี หรือ น้องเปรม อายุ 19 ปี ชาว ต.กฤษณา อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกส่งมารักษาที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา และเสียชีวิตดังกล่าว
จากการสอบสวนคณาจารย์ มทร.อีสานเองยังไม่มีใครทราบว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยฯ ยังไม่มีการเปิดการเรียนการสอนแบบออนไซต์ และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่โล่ง มีการปลูกอ้อยโดยรอบ
พ.ต.อ.ประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สาเหตุของการเสียชีวิตครั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปได้เนื่องจากพบว่า ผู้เสียชีวิตมีสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงและอาจมีการดื่มสุรา ซึ่งจะต้องส่งร่างไปผ่าชันสูตรอย่างละเอียดที่กรุงเทพฯ เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงในครั้งนี้ ส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการประสานงานกันระหว่าง สภ.มะเริง ท้องที่เกิดเหตุกับ สภ.เมืองนครราชสีมา ท้องที่ที่น้องเสียชีวิต หากพบว่าการเสียชีวิตครั้งนี้เกิดจากการกระทำของรุ่นพี่ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันที่ 11 ลุงได้ไปจัดจีพีเอสสวนมันสำปะหลังกับแม่น้องชมพู่ ออกจากสวนยางเวลา 09.22 น. นาฬิกาดูจากป้าแต๋น เขาดูเวลาจากนาฬิกาข้อมือ เจ้าหน้าที่ถามว่าขับรถจากสวนยางใช้เวลากี่นาที ผมก็บอกว่าไม่เกิน 09.30 น. พอถึงบ้านผมก็ไปอาบน้ำ เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าไปรับพระครูที่วัด เขาก็ถามว่าใช้เวลาอาบน้ำเท่าไหร่ กี่นาที เคลื่อนรถออกจากบ้านกี่นาที ผมก็เลยระบุตัวเลขให้เจ้าหน้าที่เขาพิมพ์เป็นสำนวนการให้ปากคำ ไปถึงวัดกี่โมง ผมนัดพระ 10 โมง ก็ต้องไปให้ถึง 10 โมง ทำให้ตัวเลขมันลง แล้วจู่ๆ มาสงสัยผมเรื่องเวลาไปรับพระ
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป